สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ว่าศูนย์ข้อมูลโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ของมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส์ ที่เมืองบัลติมอร์ ในรัฐแมริแลนด์ รายงานสถิติผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในสหรัฐ นับตั้งแต่เดือน ม.ค.ปีที่แล้ว ผ่านหลัก 600,000 ราย เมื่อช่วงบ่ายของวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นในอเมริกา เป็นสถิติสะสมสูงสุดของโลก

ทั้งนี้ ย้อนกลับไปเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว สหรัฐมีสถิติผู้เสียชีวิตจากโรคดังกล่าวเฉลี่ยเดือนละ 100,000 ราย ทว่านับตั้งแต่เริ่มโครงการฉีดวัคซีนแห่งชาติเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้แก่ประชาชน โดยเริ่มจากกลุ่มผู้สูงอายุและบุคลากรการแพทย์ สถิติผู้เสียชีวิตยืนยันของสหรัฐลดลงเป็นลำดับ จากประมาณ 3,000 รายต่อวัน เมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา เหลือที่เฉลี่ยวันละ 375 รายทั่วประเทศ ในปัจจุบัน

เช่นเดียวกัน สถิติการพบผู้ติดเชื้อรายวันของสหรัฐ ลดลงอย่างต่อเนื่องจากที่เคยสูงถึงวันละประมาณ 300,000 คน เมื่อเดือน ม.ค. ปัจจุบันมีการรายงานจำนวนผู้ป่วยยืนยัน วันละไม่เกิน 15,000 คนเท่านั้น
 
อย่างไรก็ตาม ประชากรวัยผู้ใหญ่ในสหรัฐประมาณครึ่งเดียวเท่านั้นที่ได้รับวัคซีนครบ 2 โด๊ส หากฉีดของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค และโมเดอร์นา และครบ 1 โด๊ส หากฉีดวัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน โดยประชากรจำนวนมาก ในภูมิภาคมิดเวสต์และกลุ่มรัฐทางใต้ของสหรัฐ ยังคงปฏิเสธเข้ารับการฉีดวัคซี